วันอังคารที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2562

การศึกษาผลของความเข้มข้น พื้นที่ผิว และอุณหภูมิ ต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี


วันที่ 1 ตุลาคม 2562 เวลา 14.30 – 16.00 น. ณ ห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์โครงการ SMP โรงเรียนคัมภีร์วิทยา นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 smp ได้เข้ามาใช้บริการเพื่อทำการทดลอง เรื่อง ศึกษาผลของความเข้มข้น พื้นที่ผิว และอุณหภูมิ ต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี  โดยมี อ.สูไวนะ เบ็ญดาโอะอาจารย์ประจำวิชาเคมี เป็นผู้สอน และนักวิทยาศาสตร์เป็นผู้ช่วย

วัตถุประสงค์
1.ทดลองศึกษาผลของความเข้มข้น พื้นที่ผิว และอุณหภูมิ ต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี
2.อธิบายผลของความเข้มข้น พื้นที่ผิว และอุณหภูมิต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี

การเกิดปฏิกิริยาเคมี หมายถึง การที่สารตั้งต้น (reactant) เปลี่ยนไปเป็นสารใหม่หรือ เรียกว่า สารผลิตภัณฑ์(product) โดยปริมาณหรือความเข้มข้นของสารตั้งต้นจะลดลง แต่ปริมาณหรือความ เข้มข้นของสารผลิตภัณฑ์จะเพิ่มขึ้น 

     ➤สารตั้งต้นผสมกันแล้วเกิดเป็นสารผลิตภัณฑ์ขึ้น ซึ่งจัดว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงทางเคมี ใน การเปลี่ยนแปลงปริมาณสารมีระยะเวลาการเปลี่ยนแปลงเร็วช้าต่างกันในการศึกษาความสัมพันธ์ของปริมาณสารที่เปลี่ยนไปกับช่วงเวลาที่ใช้ในการเปลี่ยนแปลงนั้นอยู่ในรูปความสัมพันธ์ที่เรียกว่า“อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี 
    ➤การวัดปริมาณของผลิตภัณฑ์ที่เกิดขึ้นหรือสารตั้งต้นที่ลดลง อาจทำได้หลายวิธีขึ้นอยู่กับ ลักษณะและสมบัติของสาร เช่น ชั่งมวลเมื่อสารเป็นของแข็ง วัดปริมาตรเมื่อสารเป็นก๊าซหรือวัด ความเข้มข้นเมื่อเป็นสารละลาย ส่วนเวลาวัดเป็นวินาที นาที หรือชั่วโมง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปฏิกิริยา ว่าจะเกิดเร็วช้าเพียงใด
วัสดุอุปกรณ์
1.แคลเซียมคาร์บอเนตแบบผง
2.แคลเซียมคาร์บอเนตแบบเม็ด
3.สารละลายกรดไฮโดรคลอริก (HCl) 0.2 M
4.สารละลายกรดไฮโดรคลอริก (HCl) 0.5 M
     ในการทดลองนี้นักเรียนได้ศึกษาผลของความเข้มข้นของสารละลายไฮโดรคลอริก พื้นที่ผิวของแคลเซียมคาร์บอเนตและอุณหภูมิที่แตกต่างกัน

ภาพประกอบการทดลอง







  วีดีโอ  บรรยากาศการทดลอง
    จากการทดลองพบว่าเมื่อเพิ่มความเข้มข้น พื้นที่ผิวของสารตั้งต้น และเพิ่มอุณหภูมิในปฏิกิริยาจะทำให้ปฏิกิริยาเกิดได้เร็วขึ้นและยังสามารถนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้กับปฏิกริยาในชีวิตประจำวันได้ เช่น อาหารเน่าเสียได้ช้าลงเมือเก็บไว้ในตู้เย็น 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น